วัดธรรมาภิรตาราม
เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
"นำธรรมเผยแผ่ ดูแลพระพุทธศาสนา"
บทความอื่นๆ
เหตุผลที่คนทำชั่วได้ดี ทำดีได้ชั่ว
ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๔ แห่งมหากัมมวิภังคสูตร พระผู้พระภาคเจ้าทรงจำแนกการให้ผลของกรรมเป็น ๔ ประเภท คือ
๑ บางคนทำชั่ว ตายไปแล้วไปสู่อบายก็มี เพราะมีกรรมชั่วที่ทำไว้ในชาตินี้ให้ผลทั้งต้องรับผลชาติหน้าและชาติต่อไปด้วย
๒ บางคนทำชั่วตายไปแล้วไปสู่สุคติก็มี เพราะกรรมดีที่เคยทำไว้ก่อน ๆ ให้ผล ส่วนกรรมชั่วในปัจจุบันยังไม่ได้ให้ผล หรือเวลาใกล้ตายมีความเห็นชอบ จึงไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์
๓ บางคนทำดี ตายไปแล้วไปสู่สุคติก็มี เพราะกรรมดีที่ทำไว้ในชาตินี้ให้ผล ทั้งจะให้ผลในชาติหน้า และชาติต่อ ๆ ไปด้วย
๔ บางคนทำดี ตายไปแล้วไปอบายก็มี เพราะกรรมชั่วที่เคยทำไว้ก่อน ๆ ให้ผล ส่วนกรรมดีในปัจจุบันยังไม่ได้ให้ผล หรือเวลาใกล้ตายมีความเห็นผิด จึงไปเกิดในอบาย
ผู้ที่มีปัญญาน้อย ยังไม่รู้แจ้งเห็นจริง เมื่อไม่ได้ศึกษา
มหากัมมวิภังคสูตรนี้ จึงมีความเห็นผิดว่า “ทำชั่วได้ดี ทำดีได้ชั่ว” นอกจากความเห็นผิด อาจมีสาเหตุมาจาก
๑. เห็นพวกค้ากำไรเกินควร ทำดีนิดเดียว แต่หวังได้ดีมาก ๆ เมื่อไม่สมหวังก็บ่นว่า ทำดีไม่ได้ดี
๒. ทำยังไม่ได้ถึงดี ก็เลิกทำเสียก่อน ถ้าหุงข้าวก็คงได้ข้าวสุก ๆ ดิบ ๆ
๓. ทำเลยความพอดี ถ้าได้ข้าวก็คงข้าวไหม้
๔. ทำไม่ถูกดี ไม่สร้างเหตุที่ตรงกับผลที่ต้องการ เช่น อยากรวยแต่ไม่ขยันประกอบสัมมาชีพ เป็นต้น
๕. ไม่เห็นเมื่อคนอื่นทำดีเห็นแต่เวลาเขาได้ดี ก็เลยบ่นว่า (เขา) ไม่ทำดี แต่ได้ดี
๖. เข้าใจเอาว่า ดีหรือรวย เพียงอย่างเดียว เมื่อทำดีแล้วไม่รวย ได้ดีอย่างอื่น ก็บ่นว่าทำดีไม่ได้ดี
๗. ใจร้อนเกินไป เพิ่งหุงข้าวไม่ถึง ๕ นาที ก็หวังให้ข้าวสุก เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ก็บ่นท้อแท้
๘. ทำความดีไม่ถูกบุคคล เช่น ทำความดีกับโจรผู้ร้าย
เหตุผลที่คนเกิดมาแล้วไม่เหมือนกัน (ควรทำความเข้าใจ)
ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๔ แห่งมหากัมมวิภังคสูตรกล่าวไว้ว่าครั้งนั้นพระพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสาวัตถี ได้ทรงตอบปัญหาสุภมานพที่ทูลถามว่า “ ทำไมคนที่เกิดมาในโลกนี้แล้ว จึงมีสภาพไม่เหมือนกัน “ พระองค์ทรงตอบปัญหานี้พอสรุปเป็นคู่ได้ ๗ คู่ คือ
๑. คนที่เกิดมามีอายุสั้น เพราะชอบฆ่าคนหรือสัตว์ มีจิตใจเหี้ยมโหด ขาดความเมตตา กรุณาในสัตว์ ตายไปแล้วต้องตกนรก ถ้าเกิดมาเป้นคนก็จะมีอายุสั้น
ส่วนคนที่มีอายุยืน เพราะไม่ฆ่าคนหรือสัตว์ มีจิตใจเมตตาสงสารต่อสัตว์ทั้งปวง
๒. คนที่เกิดมามีโรคมาก เพราะชอบเบียดเบียนคนหรือสัตว์ ให้ได้รับความลำบากเดือดร้อน ต่าง ๆ ตายแล้วต้องตกนรก มาเกิดเป็นคนจึงมีโรคมาก
ส่วนคนที่มีโรคน้อย เพราะไม่เบียดเบียน หรือทรมานสัตว์ มีใจเอ็นดูต่อสัตว์ทั้งปวง
๓. คนที่เกิดมาผิวพรรณไม่งาม เพราะเป็นคนขี้โกรธ ขัดเคือง พยาบาทง่าย ตายแล้วต้องตกนรก มาเกิดเป็นคนจึงมีผิวพรรณไม่งาม
ส่วนคนที่มีผิวพรรณงาม เพราะเป็นคนไม่มักโกรธ ไม่ขัดเคือง ไม่พยาบาทผู้อื่น
๔. คนที่เกิดมามีอำนาจน้อยหรือความสามารถน้อย เพราะเป็นคนขี้ริษยาผู้อื่น ขาดความเคารพนับถือผู้อื่น ตายแล้วต้องตกนรก มาเกิดเป็นคนจึงมีอำนาจน้อย
ส่วนคนที่มีอำนาจมาก หรือความสามารถมาก เพราะเป็นคนไม่ริษยา เคารพบูชาผู้ที่ควรเคารพ
๕. คนที่เกิดมายากจน เพราะเป็นคนไม่ชอบให้ทาน หรือขี้เหนียว ตายไปแล้วต้องตกนรก มาเกิดเป็นคนยากจน
ส่วนคนที่เกิดมาร่ำรวย เพราะเป็นคนชอบให้ทานอยู่เสมอ มีจิตชอบเสียสละแบ่งปัน
๖. คนที่เกิดในตระกูลต่ำ เพราะเป็นคนกระด้างถือตัวไม่อ่อนน้อมถ่อมตน หรือกราบไหว้ต่อบุคคลที่ควรอ่อนน้อมหรือกราบไหว้ ตายไปแล้วต้องตกนรกมาเกิดเป็นคนจึงเกิดในตระกูลต่ำ ส่วนคนที่เกิดในตระกูลสูง เพราะเป็นคนไม่เย่อหยิ่งถือตัว แต่อ่อนน้อมถ่อมตน
๗. คนที่เกิดมามีปัญญาทราม หรือโง่เขลา เพราะเป็นคนไม่ชอบเข้าไปหาผู้รู้ ไม่สนใจไต่ถามเรื่องบาป บุญ ความดี ความชั่ว ตายไปแล้วต้องตกนรก มาเกิดเป็นคนจึงเป็นคนโง่เขลา
ส่วนคนที่มีปัญญาดี เพราะชอบคบหากับบัณฑิตผู้รู้ สนใจศึกษาเรื่องกุศล อกุศล อยู่เนือง ๆ
กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว